ลูเซิร์น (Lucerne) – เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ใครๆถ้าจะวางแพลนมาเที่ยวที่สวิสจะไม่ลืมเมืองนี้แน่นอน ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์อีกเมืองหนึ่ง ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างกลางของประเทศ ทำให้การเดินทางมาเที่ยวที่ลูเซิร์นไม่ได้เป็นเรื่องยาก และสายธรรมชาติจะถูกใจเมืองนี้เพราะมียอดเขาชื่อดังหลายที่ เช่น Titlis, Pilatus และ Rigi ซึ่งเรามีเวลาแวะเที่ยวที่ลูเซิร์น 1 วันเต็มๆ ได้คัดสถานที่ท่องเที่ยวมาฝากเพื่อนๆ ตามนี้เลย
1.เขาพิลาตุส | Pilatus Kulm
“ยอดเขา Pilatus” ความสูงประมาณ 2100 เมตรจากระดับน้ำทะเล อยู่ในระดับที่เตี้ยกว่า ยอดเขาTitlis (3000 เมตร) แต่สูงกว่ายอดเขาRigi(1800 เมตร) และเป็นยอดเขาที่อยู่ใกล้เมืองมากที่สุด ซึ่งสำหรับเราแล้วเรามีความอยากแวะหลายที่อ่านะ จึงเลือกที่จะมาเสพธรรมชาติที่นี่ ถือว่าเพียงพอและสะดวกสุด การขึ้นไปที่ยอดเขามี 2 แบบ คือนั่งกระเช้า และ นั่งรถไฟ เราเลือกที่จะขึ้นกระเช้าไปที่ยอดเขาและลงจากเขาด้วยรถไฟ รถไฟ Cog wheel ที่นี่ถือว่าเป็นรถไฟที่ชันที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งพอนั่งแล้วก็รู้สึกว่า “อืมมมม ชันจริง อะไรจริง อย่างที่เค้าว่าไว้แหละ” ถ้าอยากรู้ว่าชันแค่ไหน ต้องไปลองค่ะ^_^
รีวิวเขาพิลาตุสแบบเน้นๆ >> https://sherwayofficial.com/wp-admin/post.php?post=202&action=edit
2.อนุสาวรีย์สิงโต | Lion Monument
ถ้ามาที่ลูเซิร์นแล้วไม่ได้แวะที่อนุสาวรีย์สิงโต บอกเลยว่าคุณมาไม่ถึงลูเซิร์นค่ะ อนุสาวรีย์สิงโต สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงกองกำลังทหารสวิสที่คอยอารักขาพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ซึ่งได้รักษาหน้าที่อย่างกล้าหาญจนถูกสังหารทั้งหมดในช่วงการปฏิวัติของฝรั่งเศสเมื่อปี 1792 และได้แกะสลักที่หน้าผาหินเป็นรูปสิงโตที่ถูกธนูยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส อนุสาวรีย์สิงโตนี้ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ เข้าเยี่ยมชมได้ฟรีจ้า
3.สะพานชาเปล | Chapel Bridge
“สะพานชาเปลและหอคอยกลางน้ำ” Landmark ที่แท้ทรูของลูเซิร์นค่ะ ซึ่งก่อนที่จะมาเป็น Landmark ให้เราถ่ายรูปนี้ จุดประสงค์หลักๆที่เค้าสร้างสะพานคือสร้างเพื่อให้สามารถเดินข้ามแม่น้ำ Ruess ไปยังโบสถ์ได้ จึงได้เรียกว่า “สะพานโบสถ์” ส่วนหอคอยแหลมๆกลางน้ำที่มองดูเกร๋ๆนั้น คือที่คุมขังนักโทษ เพราะจะได้ง่ายแก่การควบคุมและนักโทษหลบหนียากด้วยเพราะอยู่กลางน้ำนั่นเองๆๆๆๆๆๆ ซึ่งสะพานในภาพที่เราเห็นนี้ ไม่ใช่ Original แล้วนะคะ สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เมื่อปี 1933 ปัจจุบันคือเป็นการบูรณะให้ใกล้เคียงกับสภาพเดิมมากที่สุด
4.โบสถ์ St.Leodegar | Church of St.Leodegar
เป็นโบสถ์คาธอลิคที่ใหญ่ที่สุดของเมืองลูเซิร์น สร้างขึ้นเมื่อ 1633-1639 ภายในตกแต่งสวยงาม สำหรับเรา ถ้าเราไปเมืองไหนเราจะชอบแวะโบสถ์อย่างน้อย 1 ที่ ถ้ามองรวมๆแล้วโบสถ์ก็จะคล้ายๆกัน แต่เราว่าแต่ละโบสถ์จะมีการตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป เหมือนเราเดินเข้าไปชมวัฒนธรรมของเมืองนั้นๆด้วย โบสถ์นี้หาง่ายมากค่ะ แค่เดินออกมาจากสถานีรถไฟก็เห็นยอดโบสถ์อยู่ริบๆแล้วค่ะ ข้ามสะพานหน้าสถานีรถไฟ แล้วเดินเรียบไปทางขวามือก็ถึงล๊าววววว ปล.เยี่ยมชมฟรีน๊าาาา
5.สถานีรถไฟ Lucerne | Luzern Bahnhof
อาจจะงงและสงสัยว่า ทำไมจะต้องไปสถานีรถไฟลูเซิร์นด้วย เป็นเพราะว่าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่ที่นี่ค่ะ ถ้ายังไม่โปรกับเมืองลูเซิร์นก็ไปขอข้อมูล ขอแผนที่เมืองไว้เป็นที่ระลึกได้จ๊ะ และถ้าจำไม่ผิดมี Guide book เป็นภาษาไทยด้วยนะเธอ คนไทยคงไปเที่ยวเยอะแหละ ซึ่งเราได้ซื้อตั๋วขึ้นพิลาตุสจากที่นั่นเลย ครบจบในที่เดียว ส่วนชั้นใต้ดินของสถานีรถไฟมี Mart ร้านอาหารด้วยนะ เราว่าถ้าคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะไปกินอะไรที่ไหน ก็มาสถานีรถไฟนี่แหละ ง่ายดี อิอิ
ทริปลูเซิร์นนี้เรานั่งรถไฟมาจาก Zurich ใช้เวลาในการเดินทาง 45 นาที และหนึ่งวันในลูเซิร์นใช้เวลาได้คุ้มค่าทุกนาทีมากสำหรับเรา ช่วงที่เราไปคือเป็นหน้าร้อนของที่นั่น อีกอย่างปีที่เราไปเป็นปีที่เค้าว่าร้อนสุดในรอบหลายปี การเดินชมเมืองลูเซิร์นรอบนี้ จึงเหงื่อไหลย้อยเลยแหละ 555 การวางแผนการเดินทางถือเป็นเรื่องสำคัญนะคะ ต้องถามตัวเองก่อนว่าอยากได้ Mode and tone แบบไหน ถ้ามาหน้าหนาวก็จะได้เห็นหิมะหนาๆที่ยอดเขา แต่จะหนาวมากและไม่ค่อยมีดอกไม้ แต่ถ้ามาหน้าร้อนก็จะมีดอกไม้สวยๆให้ชม แต่จะไม่มีฟิวใส่เสื้อโค้ชเดินถ่ายรูปเกร๋ๆ งี้!!
