ปารีส | ฝรั่งเศส

ปารีส | ฝรั่งเศส

กรุงปารีส (Paris) – เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส และเป็น 1 ใน 4 มหานครที่สำคัญของโลก (อีก 3 แห่ง คือ โตเกียว, ลอนดอน และนิวยอร์ก) ตั้งอยู่ทางตอนบนของประเทศ โดยมีแม่น้ำแซนไหลผ่านกลางเมือง แบ่งพื้นที่การปกครองเป็น 20 เขต ซึ่งแต่ละเขตมีสถานที่ท่องเที่ยวเลิศๆ ที่เป็นแลนมาร์คของแต่ละเขตด้วย ถือได้ว่าเป็นอีกเมืองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากจะสัมผัสบรรยากาศของกรุงปารีสแห่งนี้

หากเอ่ยชื่อถึงกรุงปารีสแน่นอนว่า หลายๆคนคงคิดถึงอะไรประมาณนี้ เช่น ความแฟชั่น ความหรูหรา ความของแบรนด์เนม และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ต่างๆ ซึ่งเมื่อได้ไปสัมผัสจริงๆแล้ว เรียกได้ว่าทุกสิ่งที่ได้กล่าวมาอยู่ในเมืองนี้ได้อย่างกลมกลืน และเป็นอีกเมืองที่ถ้ามีโอกาสต้องไปค่ะ^^

1.ประตูชัยฝรั่งเศส | Arc de triomphe

ประตูชัยแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารและผู้กล้าที่ได้ร่วมรบในการปฏิวัติฝรั่งเศสและสงครามนโปเลียน ซึ่งมีความสูง 50 เมตร ด้านในซุ้มโค้งประตูได้สลักชื่อนายพลและแม่ทัพที่ร่วมรบไว้ และบริเวณพื้นใต้ประตูชัยเป็นหลุมศพของทหารนิรนามในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เรียกได้ว่าเป็นประตูชัยที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้

จุดที่ประตูชัยตั้งอยู่มีลักษณะเป็นวงเวียนค่ะ เชื่อมถนนหลัก 12 เส้น ซึ่งไม่มีทางม้าลายเพื่อข้ามถนนไปยังประตูชัยนะ แต่สามารถเดินลอดทางใต้ดินและไปโผล่ขึ้นกลางวงเวียนได้ ถ้าอยากชมวิวสวยๆของถนนที่แตกแขนงออกจากวงเวียน ขึ้นบันไดวนไปชมวิวด้านบนประตูชัยได้เลย แต่คิวจะยาวหน่อยถึงยาวมากเลยล่ะ

การเดินทางมายังประตูชัยฝรั่งเศส ไม่ซับซ้อนค่ะ ขึ้น Metro ลงสถานี Charies de Gaulle Etoile เดินขึ้นมาบนดินเจอประตูชัยเลยจ้า ไม่หลงแน่นวล ระหว่างทางเดินใต้ดินมีป้ายบอกตลอดทางค่ะ ส่วนเรื่องค่าเข้าชม ถ้าขึ้นไปชมวิวที่บนประตูชัย คนละ 8 ยูโร แต่ถ้าชมบริเวณรอบๆประตูชัย ฟรีจ้า

ตรงเกาะกลางไปยืนถ่ายรูปได้ ข้ามถนนระวังๆหน่อยน๊าา

ว่าด้วยความถนนเส้นมหาชนนั้น ใครๆ ก็คงคุ้นชื่อ “ถนนช็องเซลิเซ่” (Champs-Ellysees) ถนนที่ทอดยาวเป็นระยะทาง 2 กิโลเมตรจากประตูชัยไปจนถึงจัตุรัส Place de la Concorde โดยที่สองฝั่งของถนนนั้น มีร้านค้า ชอปแบรนด์เนมมากมาย หลายสิ่งให้เลือกสรร เดินชอปปิ้งเหนื่อยๆ จะแวะเติมความหวานที่ Laduree ร้านมาการองชื่อดังก็ดูเกร๋กรุบอยู่

เราเดินจากประตูชัยไปเรื่อยๆ บนถนนช็องเซลิเซ่ เพื่อไปยังจัตุรัส Place de la Concorde ครือ 2 ข้างถนนต้นไม้ใหญ่แน่นมากๆค่ะ ดูร่มรื่นสบายตาดีเลยแหละ

2.จัตุรัส Concorde | Place de la Concorde

เป็นลานกว้างลักษณะแปดเหลี่ยม บริเวณกลางลานมีเสาโอเบลิสถ์ เสาโบราณอายุกว่า 3000 ปี จากวิหารลักชัวร์ ประเทศอียิปต์ และขนาบข้างด้วยน้ำพุ 2 ฝั่ง ซึ่งปัจจุบันยังคงใช้เป็นลานในการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองต่างๆ

จากจัตุรัส Place de la Concorde มองย้อนกลับไปที่ประตูชัยฝรั่งเศส

3.หอไอเฟล | Eiffel Tower

หอไอเฟล ที่มาของชื่อนี้ได้ตั้งชื่อตามสถาปนิกที่เป็นผู้ออกแบบและเป็นวิศวกรที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส ชื่อ Gustave Eiffel หอไอเฟลตั้งอยู่ที่สวนชองป์ เดอ มารส์ (Champ de Mars) ริมแม่น้ำแซน เป็นโครงสร้างเหล็กที่มีความสูง 324 เมตรจากพื้นดิน ตัวหอคอยสูง 300 เมตร และเสาอากาศด้านบนสูงอีก 24 เมตร ซึ่งบนหอคอยมีจุดให้ชมวิวอยู่ 3 ระดับ โดยระดับที่ 1 มีความสูง 57 เมตร ส่วนนี้มีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก พร้อมกับชมวิว 360 องศาได้ ระดับที่ 2 ชั้นนี้จะมีร้านอาหารหรูและมองเห็นวิวแม่น้ำแซนไหลผ่าน เหมาะแก่การดินเนอร์สุดๆ และสุดท้ายคือระดับที่ 3 ชั้นบนสุด มีจัดแสดงออฟฟิศจำลองและหุ่นขี้ผึ้งของ Gustave Eiffel พร้อมทั้งมีบาร์ให้นั่งจิบชิลๆ เปิดให้บริการถึง 22.00 น.

การขึ้นไปยังแต่ละชั้นของหอไอเฟลนั้น สามารถเดินขึ้นบันไดหรือใช้ลิฟท์ได้ ค่าตั๋วขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 อยู่ที่ 7 ยูโร หากขึ้นลิฟท์ 11 ยูโร และชั้นบนสุดที่ต้องขึ้นลิฟท์เท่านั้นอยู่ที่ 17 ยูโร(แวะชมวิวชั้น 2 ได้ด้วยนา) อยากชมวิวชั้นไหน เลือกได้เลยจ้า ปล.ตั๋วจองล่วงหน้าได้นะ แต่ถ้าไม่ได้จองล่วงหน้า ให้ไปแต่เช้าเลยเน้อ

ช่วงพลบค่ำหอไอเฟลจะเริ่มเปิดไฟและจะมีโชว์ไฟบนหอไอเฟลประมาณช่วง 1 ทุ่ม ครือบรรยากาศดีมากกกก โรแมนติกปุดๆ นั่งได้นานๆเลยแหละ และไม่ต้องกลัวคอแห้ง เพราะมีคนเดินขายเครื่องดื่มตลอด แต่แนะนำว่าถ้าตั้งใจจะมานั่งนานนะ ซื้อเครื่องดื่มมาเลยจ้า น่าจะถูกว่าเค้าเดินขาย

4.พระราชวังแวร์ซาย | Palace of Versailles

พระราชวังแวร์ซาย แลนมาร์คอันดับต้นๆของกรุงปารีส และด้วยความที่เป็นพระราชวังที่ใหญ่โตและงดงามที่นี่จึงได้บันทึกเป็นมรดกโลก เมื่อปี พ.ศ. 2522 ซึ่งในเขตพระราชวังแบ่งเป็น 3 ส่วน 1.อาคารพระราชวัง 2.บริเวณสวน 3.วัง Trianon และหมู่บ้านจำลอง Queen’s Hamlet

บอกเลยว่ามาที่นี่คือดีจริงๆ สวยงามมาก ส่วนใหญ่ที่เห็นคือทั้งด้านนอกและด้านใน แม้กระทั่งพื้นเป็นหินอ่อนเป็นหลักค่ะ อลังการงานสร้างมาก พนังและฝ้าเพดานประดับประดาไปด้วยภาพวาดที่สวยงามและอ่อนช้อย

ภาพรับประทานอาหารที่บ้านของ Simon the Pharisee
ห้องโถงอยู่บริเวณส่วนหน้า
บรรยากาศด้านใน สวยงามทุกมุม
บางส่วนภายในห้อง The mars room 
ห้องกระจก The Hall of Mirrors

หากได้ชมละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” คงจำได้ว่ามีฉากที่คุณพี่หมื่นจะต้องตามขบวนของเจ้าพระยาโกษาธิบดี(โกษาปาน) ไปฝรั่งเศสเพื่อเข้าพบพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งคุณพี่หมื่นได้เขียนบันทึกมาให้ออเจ้าเกดสุรางค์ ตามนี้“กำหนดการให้เข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่ ที่ท้องพระโรงใหญ่พระราชวังแวร์ซายส์ ในห้องกระจก เป็นห้องหินอ่อนมีหน้าต่างบุด้วยกระจกเจียระไนสูงแต่พื้นจรดเพดาน ด้านละ 17 บาน ระย้าแก้วเจียระไน จุดเทียนสว่างไสวห้อยย้อยจากเพดาน สวยงามพราวแพรวไปทั้งห้อง สมชื่อ ห้องกระจก” ซึ่งห้องในบันทึกนั้นก็คือ ห้องกระจกตามภาพบนนี้เลย

น้ำพุบริเวณสวนของพระราขวังแวร์ซาย

5.พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ | Louvre museum

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ครอบตำแหน่งพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ภายในจัดเก็บงานศิลปะที่โด่งดังและมหาสมบัติที่มีค่ากว่าสามแสนชิ้น ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์นั้นเดิมทีเป็นพระราชวังลูฟวร์ ที่พระเจ้าฟร็องซัวที่ 1 เคยได้พำนักอาศัย ส่วนปิรามิดแก้วบริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ได้ถูกสร้างขึ้นเพิ่มเติมเมื่อปี ค.ศ.1988

หากชมภาพยนตร์เรื่องรหัสลับระทึกโลก (The Da Vinci Code) จะคุ้นตากับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เพราะเนื้อเรื่องดำเนินเกี่ยวโยงไปมาเข้ากับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ ซึ่งเราก็อยากไปที่นี่เพราะดู The Da Vinci Code นี่แหละ ^^”

ปิรามิดแก้วที่ตั้งอยู่ลานด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์
Mona Lisa ผลงานชิ้นเอกของ เลโอนาร์โด ดาวินชี
The Coronation of Napoleon
ภาพงานศิลปะสวยๆเยอะม๊ากกกก โดนใจสายอาร์ท
 Cupid and Psyche งานแกะสลักจากหินอ่อน

การเดินทางและที่พัก

เรานั่งเครื่องบินไปลงที่ ท่าอากาศยานปารีสชาร์ลเดอโกล (Paris Charles de Gaulle Airport) และนั่งรถไฟ RER สาย B เข้าเมืองปารีสด้วยค่าตั๋วอยู่ที่คนละ 10.3 ยูโร ใช้เวลาในการเดินทางเข้าเมืองประมาณ 45 นาที จากนั้นนั่งรถไฟอีกต่อเพื่อเข้าที่พัก

ที่พักที่ปารีสเราเลือกพักที่ Hotel Aston ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดิน Grands Boulevards ประมาณ 300 เมตร เดินเข้าซอยมาแปบเดียวถึงเลย แต่ถ้าไม่อยากเดินเข้าซอยนะ พักที่ Holiday Inn Paris Opéra – Grands Boulevards เลยก็ได้ ขึ้นจากสถานีรถไฟเจอโรงแรมเลย

กลับมาที่ Hotel Aston กันต่อค่ะ ที่นี่จะมีความมินินิสสสหน่อย มีลิฟท์นะ ซึ่งขนาดลิฟท์ก็จะมินิ ส่วนในห้องมีทุกอย่างครบครันแต่ตัวห้องจะตะมุตะมิน่ารัก ห้องน้ำก็โอเคร และเตียงคือดีงามๆๆๆๆๆ นุ่มมากๆๆๆๆๆ นอนสบายมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ค่าใช้จ่ายรวม 2 คืน อยู่ที่ประมาณ 5000 บาท

สำหรับกรุงปารีสรอบนี้เรามีเวลาเที่ยวที่นี่ประมาณ 2 วันเต็มๆ ซึ่งแต่ละวันคือกิจกรรมแน่นมาก และวันแรกไปถึงคือฝนตกค่ะ นอยเด้อๆๆๆๆๆ เวลาเที่ยวหายไป แต่โดยรวมคือแฮปปี้มาก ได้ไปเที่ยวในจุดที่เป็นไฮไลท์สำคัญของเมืองก็โอเคร ล๊าววววว ^_________^

ติดตามกันได้ตามช่องทางด้านล่างน๊า

Facebook : https://www.facebook.com/sherwayofficial

IG : https://www.instagram.com/sherwayofficial

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *