พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ | ฝรั่งเศส

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ | ฝรั่งเศส

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) – พิพิธภัณฑ์ที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ลำดับต้น ๆ ของโลก เก็บรวบรวมงานศิลปะมากมายหลายแขนงทั้งภาพวาด งานศิลปะตกแต่งและรูปปั้นกว่า 35,000 ชิ้น ซึ่งหากพูดถึงมูลค่านั้น ที่นี่อาจจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บงานศิลปะมูลค่ารวมมากที่สุดของโลกเลยก็ว่าได้ และด้วยความมีชื่อเสียงจึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของนักท่องเที่ยวที่อยากจะมาเยี่ยมชม ส่งผลให้ได้ครองตำแหน่งพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก

ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ที่เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้ เดิมเคยเป็นพระราชวังที่พำนักของกษัตริย์หลายพระองค์ของฝรั่งเศส สร้างขึ้นเมื่อมี ค.ศ. 1190 ในสไตล์เรอเนซองส์ หลังจากช่วงปฏิวัติฝรั่งเศสได้ถูกปรับให้เป็นพิพิธภัณฑ์ พร้อมกับได้สร้างปีรามิดแก้วบริเวณหน้าอาคารเพิ่มเติมในปี ค.ศ. 1988 เพื่อปรับลุคให้ดูโมเดิร์นร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น

อาคารพิพิธภัณฑ์มีลักษณะคล้ายรูปตัว U แบ่งเป็น 3 ปีก หากหันหน้าเข้าตัวอาคาร ด้านซ้ายมือคือปีก RICHELIEU ตรงกลางคือปีก SULLY และด้านขวามือคือปีก DENON งานศิลปะชิ้นเอกจากทั่วโลกจะถูกซ่อนอยู่ในแต่ละปีกและแต่ละชั้นได้อย่าง งง เลยค่ะ กำ Map ให้แน่น แล้วเดินสับๆหางานศิลปะชิ้นเอกกันอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว เชียวแหละ ^__^

ณ ทางเข้าหลักฝั่งปีรามิดแก้ว

เราวางแผนไว้ว่าจะใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณครึ่งวัน เลือกชมงานชิ้นดังให้มากที่สุดเพราะตารางเที่ยวแน่นเอี๊ยดดดดดเลย ส่วนใหญ่เดินชมงานศิลปะกันที่ชั้น 1 และชั้น 0 อีกนิดหน่อย มีงานชิ้นเด็ดดวงอะไรบ้าง ที่เราเก็บภาพมาฝาก ไปชมกันเล้ยยย

#1 ภาพโมนาลิซ่า

หากพูดถึงพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หลายคนก็คงนึกถึงภาพโมนาลิซ่าของศิลปินระดับโลก เลโอนาร์โด ดา วินชี ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่า เมื่อเราไปถึงที่ ห้อง 711 ปีก Denon คนยืนมุงชมภาพโมนาลิซ่าเกือบร้อย ภาพวาดหญิงสาวผิวขาว ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มเล็กๆ สีคุมโทน ไม่ฉูดฉาด ดูเรียบง่ายแต่สวยงาม ขนาดของภาพไม่ได้ใหญ่มากนัก ซึ่งจะเห็นว่าภาพนี้จะถูกครอบไว้ด้วยกระจกอีก 1 ชั้นและมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอยู่บริเวณนั้นหลายคน คงบอกได้ว่า ภาพนี้มีคุณค่าและความสำคัญมากเพียงใด

ภาพโมนาลิซ่า โดย เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci)

เหตุใดภาพโมน่าลิซ่าถึงได้มีชื่อเสียงดังก้องโลก??
เล่าสั้นๆรวบตึงเลยนะ คือเดิมภาพนี้โชว์อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เหมือนภาพงานศิลปะทั่วไป อยู่มาวันหนึ่งในปี ค.ศ.1911 ภาพนี้ได้อันตรธานหายไปจากที่ที่เคยอยู่ เหลือเพียงแค่กรอบรูปไว้ให้ดูต่างหน้า เป็นเรื่องสิคะ ภาพจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์หายไป กลายเป็นข่าวดังทั่วโลก หลังจากนั้นเกือบ 2 ปี มีบุคคลหนึ่งอ้างว่ามีภาพโมนาลิซ่าของจริงและได้ติดต่อขายภาพให้กับพ่อค้างานศิลปะ ก็เลยถูกล่อซื้อไปตามระเบียบโดนตำรวจจับ พบว่าชายผู้นี้เป็นชาวอิตาลีเคยทำงานในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ โดยเค้ามีความเชื่อว่าภาพโมนาลิซา ถูกนโปเลียนปล้นไปในช่วงยกทัพบุกอิตาลี เขาจึงมีความคิดว่าภาพวาดโมนาลิซาควรเป็นของคนอิตาลี และเมื่อภาพโมนาลิซ่าได้กลับมาอยู่ในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อีกครั้ง ใครต่อใครก็อยากจะมาชมความสวยงามของภาพนี้กัน จึงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบันนี้

#2 ภาพงานเลี้ยงแต่งงาน ณ คานา

ภาพงานเลี้ยงแต่งงาน ณ คานา(The Wedding Feast at Cana) ได้เล่าถึงเรื่องราวของฉากหนึ่งในคัมภีร์ งานเลี้ยงสังสรรค์ที่คานาในกาลิลีที่พระเยซูคริสต์ได้เปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นเหล้าองุ่น ภาพวาดชิ้นนี้ดูมีสีสันขึ้นมานิดหน่อย มีขนาดที่ใหญ่มากแทบจะเต็มผนัง และหากดูในรายละเอียดของภาพจะเห็นได้ว่ามีรายละเอียดที่เยอะมากทั้งผู้คนและความหลากสีสัน ศิลปินฝีมือยอดเยี่ยมมากจริงๆ ภาพนี้อยู่ผนังฝั่งตรงข้ามกับภาพโมนาสิซ่า ห้อง 711 ปีก Denon

The Wedding Feast at Cana ห้อง 711
Veronese (Paolo Caliari), Supper at Emmaus ห้อง 711 ปีก Denon
Grande Galerie ห้อง 710 ปีก Denon
Grande Galerie ห้อง 710 ปีก Denon
Grande Galerie ห้อง 710 ปีก Denon

#3 รูปปั้นเทพีไนกี้แห่งซาโมเทรซ

รูปปั้นเทพีไนกี้แห่งซาโมเทรซ เป็นงานแกะสลักหินอ่อนยุคกรีกเฮเลนิสติก ได้ถูกค้นพบบนเกาะ Samothrace คาดการณ์ว่าถูกสร้างขึ้นเมื่อ 300 ปีก่อนคริสตกาล โดยนักประวัติศาสตร์เชื่อว่าเป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงชัยชนะของกองทัพเรือ งานแกะสลักชิ้นนี้ได้จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1884 แนะนำเลยนะว่าให้ยืนดูใกล้ๆ เพราะเป็นงานแกะสลักที่สวยงามมาก การพริ้วไหวของผ้าเอย อะไรเอย คือดีเทลแน่นสุดดด ชมรูปปั้นชิ้นนี้ได้ที่ ห้อง 703 (Daru staircase) ปีก Denon

The Winged Victory of Samothrace ท่ามกลางฝูงชน

#4 การฉัตรมงคลของนโปเลียน

Jacques-Louis David ศิลปินที่ได้เข้าร่วมพิธีการฉัตรมงคลของนโปเลียน เพื่อเก็บรายละเอียดในพิธีการครั้งนั้น และได้ถ่ายทอดบรรยากาศในพิธีการผ่านภาพวาดชิ้นนี้ ภาพนี้เป็นภาพที่ใหญ่และถือว่ารายละเอียดเยอะมั่กมาก ทั้งผู้ร่วมงาน การแต่งกายที่หลากหลาย ตำแหน่งต่างๆ ศิลปินจดจำและนำมาวาดได้ นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งเลยนะ แวะไปชมได้ที่ ห้อง 702 ปีก Denon

ภาพวาดพิธีฉัตรมงคลของนโปเลียน โดย Jacques-Louis David
ภาพวาด ณ ห้อง 702
Salle 701 – Salle Denon
เพดานดีเทลแบบแน่นๆ

#5 Liberty Leading the People

เป็นผลงานภาพวาดสีน้ำมันบนผ้าใบของ Eugène DELACROIX ที่ได้วาดถึงเรื่องราวในยุคที่ฝรั่งเศสมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ภาพนี้จัดแสดงอยู่ที่ ห้อง 700 Salle และหากได้ชม “วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย” อาจจะคุ้นตากับภาพนี้นิดๆ เพราะมีฉากหนึ่งที่ได้จัดองค์ประกอบของตัวละครให้คล้ายคลึงกับภาพนี้ด้วยเช่นกัน

Salle 700 – Salle Mollien, romantisme
ณ ห้อง 718 Salle

#6 Cupid and Psyche

ผลงานแกะสลักหินอ่อนขนาดความสูง 1.5 เมตร โดยอันโตนิโอ คาโนวา (Antionio Canova) ได้เล่าถึงไซคี (ซิเช่ ในภาษาฝรั่งเศส) ที่กำลังจะสิ้นลม คิวปิดรีบเข้าไปช่วยเหลือเธอ ทำให้ธนูของคิวปิดได้เกิดแทงเข้าที่ผิวของไซคี พร้อมทั้งจุมพิตเธอด้วยความรัก เธอจึงได้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ถือเป็นงานชิ้นเอกที่ต้องไปชมเลย ห้อง 403 Denon

ผลงานแกะสลักของ Antonio Canova, Psyche Revived by Cupid’s Kiss 
Salle 406 – Galerie Daru
ห้อง 427 Denon ชั้น 0

#7 Galerie d’Apollon

Galerie d’Apollon เป็นห้องโถงยาวเพดานโค้งสูง เมื่อมองจากทางเข้าสิ่งที่ต้องสะดุดตาอย่างแน่นอนคือผนังและเพดานที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามสมราคา ภายในห้องนี้ได้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆในอดีต ตั้งแต่แก้วไปจนถึงมงกุฎ ขอบอกว่าสวยงามทุกชิ้น งานละเอียดทุกชิ้น แวะชมความหรูหราอลังการได้ที่ ห้อง 705 Salle

Salle 705 – Galerie d’Apollon

#8 โซนศิลปะบนผืนผ้า

ขอเรียกชื่อโซนนี้ว่า “โซนศิลปะบนผืนผ้า”แล้วกันนะ อยู่ใน ห้อง 601-604 Salle ภายในห้องมีงานศิลปะอีกแบบนึงที่เราว่ายากและใช้ความละเอียดละออสูงเช่นกัน เอาจริงก็มองไม่ค่อยออกว่าเป็นงานปักหรืองานทอ เพราะเค้ากั้นโซนไว้ไม่ให้เข้าไปใกล้ชิ้นงาน คือมองดูแล้วสวยไปอีกแบบ จะสังเกตได้ว่าในภาพบนผ้านั้น นอกจากจะถ่ายทอดเรื่องราวแล้ว เค้าได้ทำกรอบของภาพไว้ด้วยเลย ผืนเดียวจบครบทั้งภาพทั้งกรอบ พร้อมติดผนังโชว์สวยๆค่ะ

ศิลปะบนผืนผ้า ณ ห้อง 604 Salle
ห้อง 528 Salle
ภาพขวาคือ The Virgin of Jeanne d’Evreux ห้อง 503

#9 ห้องชุดของนโปเลียนที่ 3

ภายในห้องมีลักษณะเป็นห้องเพดานสูงตกแต่งสวยงามมากกกกก ตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน บอกเลยห้องชุดนี้ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด การตกแต่งภายในเน้นความหรูหรา ใช้สีแดงตัดกับสีทอง พร้อมกับประดับประดาด้วยโคมไฟระย้า ระยิบระยับวับวาวตาแทบบอดกันเลย และอีกหนึ่งเฟอนิเจอร์ที่เป็นจุดเด่นของห้องนี้คือที่นั่ง 3 ช่อง แวะชมความสวยงามอลังการได้ที่ ห้อง 545 Richelieu

Napoleon III Apartments: the Grand Salon
 Room 545, Richelieu wing, Level 1
ห้องรับประทานอาหาร

การเดินทางและค่าใช้จ่าย

การเดินทางมายังพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ไม่ได้ยุ่งยากเลย นั่ง Metro มาลงที่สถานี Palais-Royal / Musée du Louvre (lines 1 and 7) หรือ Pyramides (line 14) แล้วเดินต่ออีกนิดก็ถึงและจ้า ว่าด้วยเรื่องทางเข้าพิพิธภัณฑ์มีหลายทางนะ แต่เราเลือกเข้าทางปิรามิดแก้วเลย ระหว่างรอประตูเปิดก็ยืนดูวิวสวยๆ เซลฟี่รองี้ ซึ่งวันนั้นเราไปถึงประมาณเกือบ 8 โมงเช้า คนต่อแถวเยอะพอควร แต่ก็เป็นปกติ ยืนรอนิดหน่อย หลังจากที่เค้าเปิดประตู ลงบันไดมาด้านล่างเข้าช่องซื้อตั๋วได้เลย ค่าตั๋วคนละ 17 ยูโร จากนั้นอย่าลืมเดินไปรับ Map ที่ Information ไม่งั้นชีวิตจะเฟว้งฟว้างมาก 55555

4 ชั่วโมงกับการเดินวนๆดูนั่นนี่ในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ บอกเลยว่าชอบมากกกกกกก ถ้าคนชอบงานศิลปะ จะโดนใจสุดๆ แล้วควรใช้เวลาอยู่ที่นี่เท่าไหร่ดี เราว่าให้พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ 1 วันเต็มๆไปเลย ถ้ามีเวลาเหลือๆอ่ะนะ เพราะที่นี่คือกว้างมากกกกก แต่ถ้าคิวเที่ยวแน่นหน่อย วางแผนสักครึ่งวันก็โอน๊าาาาา เลือกชมงานที่คิดว่าเด็ดๆ ก็จุ้มจื้นหัวใจอยู่ ศึกษาดีเทลต่างๆของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เชิญทางนี้เลย >> https://www.louvre.fr/en

ติดตามกันได้ตามช่องทางด้านล่างน๊า

Facebook : https://www.facebook.com/sherwayofficial

IG : https://www.instagram.com/sherwayofficial

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *